"ศรัณย์วุฒิ" เจ้าของฉายาเครางามขึ้นปราศรัยหาเสียง อสม.หาช่องทางเพิ่มรายได้ให้กับอสม.เดือนละ 20,000 บาท
อำเภอลับแล เสียงตบมือดังกึกก้อง ประกาศนำ นโยบายแช่แข็งหนี้เสนอ "ประยุทธ์" ใช้หาเสียงทั่วประเทศ หยุดหนี้ หยุดดอกเบี้ย จนกว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นแล้วค่อยชำระกันใหม่
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 20 มีนาคม 66 ที่ศูนย์โอทอปเทศบาลตำบลหัวดง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ สส.อุตรดิตถ์ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงพบปะผู้นำอสมอำเภอลับแล จำนวนกว่า 1,500คน
กล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้อนุมัติให้มีการขึ้นเงินเดือน อบต.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย สารวัตร แพทย์ตำบลและอสม. ไปแล้ว เหตุผลเพราะทุกคนตรากตรำทำงานหนัก ต่อสู้กับโรคร้ายโควิด-19 ที่ผ่านมา และทุกคนเป็นกำลังหลักในการเข้าถึงและสัมผัสกับพี่น้องประชาชนในทุกหมู่บ้านทุกหลังคาเรือน กล่าวขอบคุณ อบต.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตร แพทย์ประจำตำบล ผู้ช่วยและอสม.ทุกคน ที่ร่วมต่อสู้กับโควิด-19 จนผ่านพ้นไปด้วยดี
ทั้งนี้ นายศรัณย์วุฒิ สส.อุตรดิตถ์ ได้นำแผ่นโปสเตอร์ ขนาดใหญ่กล่าวปราศรัยจะนำเรื่องการแช่แข็งหนี้ หยุดต้น หยุดดอกเบี้ย จนกว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นแล้วค่อยมาคุยเรื่องหนี้กับลูกหนี้ทุกคนเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อนำไปเป็นนโยบายในการหาเสียง มีแผนที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ อสม.อีกครั้ง และสร้างรายได้เพิ่มให้กับอสม.โดยดึงเอาผู้สูงอายุชาวต่างชาติเข้ามาพักในประเทศไทยแล้วให้อสม.มีส่วนร่วมดูแลคนเหล่านี้ตามนโยยายของรัฐบาลเพื่อเป็นการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับอสม.และครอบครัวเดือนละไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท หลังเสร็จสิ้นการปราศรัยชาวอสม.อำเภอพิชัย นายศรัณย์วุฒิ ได้ร้องเพลง "ศรัณย์ไม่ลืม" สิ้นเสียงพลงอสม.อำเภอลับแล ได้ตบมือเป็นกำลังใจให้กับนายศรัณย์วุฒิ สส.อุตรดิตถ์ ครั้งนี้ เพื่อต่อสู้กับศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงดังกึกก้องภายในศูนย์โอทอป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรัณย์วุฒิพร้อมด้วย น.ส.รสรินทร์ ศรัณย์เกตุลูกสาว จะลงสมัครสส.อุตรดิตถ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยนายศรัณย์วุฒิ ลงเขต3 อำเภอพิชัย อำเภอลับแลและอำเภอตรอน ส่วนลูกสาวลงเขต2 อำเภอท่าปลา อำเภอน้ำปาด อำเภอฟากท่า อำเภอบ้านโคก อำเภอทองแสนขัน ในขณะเดียวกันนี้ในช่วงเวลาบ่ายได้มีพระราชกฤษฎีกาประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร ลงในราชกิจจานุเบกษาผ่านทางเว็บไซต์ ถือเป็นการสิ้นสุดสมาชิกสภาสส.ทุกคนทันที เพื่อเตรียมตัวเข้าสู้การเลือกตั้งสส.ทั้งประเทศภายในระยะเวลา 45-60 วัน
นาคา คะเลิศรัมย์/รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น