แม่-พี่ชาย ไม่เชื่อเมียเสี่ยมือปืนไม่รู้เรื่อง ส่วนคดีความให้เป็นไปตามกฏหมาย ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานศพนายยุทธภัณฑ์ พ่วงนวม อายุ 27 ปี ที่ศาลาธรรมสังเวช วัดคุ้งยางใหญ่ หมู่3 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.สุโขทัย บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงามีบรรดาญาติๆคุณแม่และพี่ชายคนโตของผู้เสียชีวิตกำลังนั่งพูดคุยและเตรียมงานต้อนรับแขกในคืนวันนี้ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกลับ นางศรีแพร อิ่มขาว อายุ 51 ปี คุณแม่ผู้เสียชีวิตกล่าวว่า แม่ไม่ทราบเรื่องราวความเป็นไปของลูกชายและผู้หญิงคนนี้เลย ไม่เคยรู้ไม่เคยทราบไม่รู้จริงๆว่าเค้าไปคุยกันลูกชายเค้าเป็นคนไม่ค่อยพูดไม่ค่อยเล่าอะไรให้แม่ฟังในเรื่องส่วนตัวจะไม่ค่อยรู้กับเขาเช้าไปทำงานเย็นกลับบ้าน เรื่องที่เกิดขึ้นตัวผู้ต้องหานี่เค้าใจร้ายนะใจร้ายมากคือเค้าทำกับลูกถ้ายิงขู่อะไรก็ตายหรือซ้อมตีให้เค้าจำแบบอย่ามายุ่งนะคือสั่งสอนเค้าก็ได้นะมันไม่มีอะไรถึงขั้นรุนแรงที่ว่าคุณต้องมาฆ่าเค้าไปคนหนึ่งพรากเค้าไปจากแม่ความสูญเสียของแม่มันเยอะมากเพราะลูกเป็นเด็กดีไม่เคยเกเรถามทุกคนได้ทั้งทางบ้านหรือที่ทำงานและอยากจะขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจมากขอบคุณมากจริงๆในตอนแรกคิดว่าจะตามจับผู้ต้องหายากเพราะว่าเค้าหนีออกไปตั้งแต่คืนนั้นเลยแต่ตำรวจสกัดจับไปทั่วประเทศและไม่คิดว่าจะหนีไปไกลจนจับตัวผู้ต้องหาได้ที่จังหวัดลำปางก็ฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจมากที่จับคนร้ายได้อย่างรวดเร็วส่วนกรณีที่ฝ่ายหญิงบอกว่า ไม่รู้เรื่องที่สามีจะมาทำการอย่างนี้ตัวเองไม่เชื่อเลยไม่เชื่อขอถามหน่อยเวลาผู้ต้องหาจะมายิงลูกชายเค้าไม่ทะเลาะกันบ้างเลยหรือไม่มีการห้ามหรือว่าจะตะโกนบอกลูกชายหน่อยว่า ให้ลูกหนีหรือบอกว่าให้หนีนะไม่มีการพูดหรือไม่มีเสียงอะไรเลยหรือคะไม่มีการพูดหรือการห้ามใดๆกันบ้างไหมอันนี้ตัวเองเชื่อว่า ฝ่ายหญิงต้องรู้เห็นและฝ่ายหญิงเค้าให้การว่า โดนผู้ต้องหาใช้ปืนจ่อบังคับเขาขึ้นรถไปแต่มีพยานบอกว่า เค้าเดินตามกันออกมาเฉยๆไม่มีการเอาปืนจ่อเดินถือกระเป๋าตามกันออกมาเป็นปรกติไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยตอนที่ลูกชายถูกยิงฝ่ายหญิงมีตะโกนให้ใครช่วยบ้างไหมไม่ใช่ทิ้งให้ลูกเรานอนในน้ำทั้งคืนข้ามคืนคำให้การของเค้าสองคนสวนกันไปสวนกันมาอยากให้พูดความจริง นางศรีแพร
ด้านนายรัตน์พงศ์ พ่วงนวม อายุ 29 ปี พี่ชายเปิดเผยว่า ครอบครัวหวั่นกลัวเรื่องที่เกิดขึ้นจะเงียบเพราะสังเกตุผู้ก่อเหตุได้ก่อคดีมาหลายครั้งแล้วไม่เคยโดนจับอยากขอความเป็นธรรมให้น้องผมด้วยส่วนตัวไม่รู้จะพูดอะไรกลัวเรื่องจะเงียบอย่างเดียวตัวเองไม่เชื่อที่ฝ่ายหญิงบอกว่า ไม่รู้เรื่องเพราะเป็นไปไม่ได้ทั้งๆที่ฝ่ายหญิงเป็นคนไปรับน้องชายออกจากที่บ้านแล้วฝ่ายหญิงเองก็เป็นคนจองรีสอร์ตเป็นชื่อตัวเองจะมาตอบว่าไม่รู้เรื่องได้ยังไงแล้วสามีฝ่ายหญิงก็ไปจองพักด้วยเป็นไปไม่ได้ที่เค้าจะไม่รู้ไม่เห็นกันเลย และหลังจากเกิดเหตุยังไม่มีการติดต่อมาจากฝั่งคู่กรณีแต่อย่างใด
พงศ์เทพ สาคร สุโขทัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น