สุโขทัย-รวบแรงงานเมียนมา 29ราย พร้อม2คนไทย หนีตำรวจมาจ๊ะเอ๋ อ.ส. ภายใต้การอำนวยการของนายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าฯจ.สุโขทัย ในการกวดขันผู้ลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายผ่านเข้ามายังพื้นที่ จ.สุโขทัย นายสมพงค์ ชมชัย นายอำเภอศรีสัชนาลัย จึงสั่งการผู้ใต้บังคับบัญชาให้ปฏิบัติตามนโยบายอย่างเคร่งครัด กระทั่ง เวลา 14.30น. นายนิรันดร์ พรมละ ปลัดอาวุโส และนายเสฎวุฒิ ประมวล ปลัดฝ่ายความมั่นคง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครรักษาดินแดน ว่าพบกลุ่มแรงงานต่างด้าวโดยสารรถตู้ หลบหนีการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาประสบอุบัติเหตุชนประตูเข้าวัดนนทาราม(วัดบ้านใหม่) หมู่.4 ต.หาดเสี้ยว อ.ศรีสัชนาลัย จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีสัชนาลัย เดินทางไปตรวจสอบ พบรถตู้ โตโยต้า สีบรอน ทะเบียน ฮก 4058 กทม.สภาพด้านหน้าฝั่งซ้ายเสียหายเนื่องจากชนประตูทางเข้าวัด พร้อมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา 29คน เป็นชาย10คน หญิง19คน ถูกเจ้าหน้าที่ อ.ส.และตำรวจสายตรวจตำบลป่างิ้ว ควบคุมตัวใว้ โดยมีนายพงษ์หฤษฎ์ ศิวัชนันทวงษ์ อายุ47ปี อยู่บ้านเลขที่ 170/1 หมู่.2 ต.สันกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เป็นคนขับ โดยมีนายณรงค์ฤทธิ์ ไกรกิจราษฎร์ อายุ 33ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/2 หมู่.9 ต.ไกรใน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย นั่งมาด้วย จากการสอบถามทราบว่า มีชาวบ้านสังเกตเห็นว่ารถตู้คันดังกล่าวบรรทุกสิ่งของมาหนักผิดปกติ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ กระทั่งรถคันดังกล่าวขับมาถึงด่านตรวจป่างิ้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจส่งสัญญาณให้หยุด แต่นายพงษ์หฤษฎ์ คนขับกลับเร่งเครื่องหลบหนี สายตรวจป่างิ้วจึงไล่ตามมา จนกระทั่งจะหลบเข้าไปในวัดแต่เกิดชนเข้ากับเสาประตูทางเข้าวัด เป็นช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน จำนวน5นาย กำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ในวัดพอดี จึงเข้ามาตรวจสอบ พบว่าส่วนใหญ่พูดภาษาไทยไม่ได้ ประกอบกับตำรวจสายตรวจตามมาทัน จึงทราบว่าเป็นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งทราบว่ามีบางส่วนที่พูดภาษาไทยได้เปิดเผยว่าเคยลักลอบทำงานอยู่ประเทศไทย ช่วงโดวิด-19 ระบาด ได้กลับบ้านเกิด จนกระทั่งสถาณการณ์โควิด คลี่คลาย จึงลักลอบเดินทางเข้ามาใหม่ โดยเสียค่านายหน้าคนละ 23,000บาท ส่วนคนขับรถได้ค่าจ้าง 5000บาท โดยรับต่อมาจากจ.ลำปางเพื่อไปส่งจ.อุทัยธานี แล้วจะมีผู้ร่วมขบวนการมารับต่อไปอีกทอด เจ้าหน้าที่ทำการตรวจคัดกรองโควิด-19 ตามมาตรการ ก่อนจะสอบปากคำโดยละเอียดเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
พงศ์เทพ สาคร สุโขทัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น